1. เรียนออนไลน์

ในยุคที่โลกหมุนเร็วแทบพลิกฝ่ามือ การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งที่ทุกคนควรพัฒนาทักษะของตัวเองให้เท่าทันอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงเวลานี้เป็นจังหวะที่จะได้พัฒนาทักษะ ความรู้ เพิ่มขีดความสามารถของตัวคุณเอง ซึ่งคอร์สเรียนออนไลน์มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา, กราฟฟิก, ตัดต่อวิดีโอ, ถ่ายภาพ, ศิลปะ, Data Science, Design Thinking, Python เป็นต้น การเรียนออนไลน์จึงเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงเวลานี้เพื่อพัฒนาศักยภาพให้ตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมกลับไปทำงานที่ออฟฟิศให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

2 .คอนเทนต์ครีเอเทอร์

ที่จริงแล้วคนเราทุกคนล้วนมีความสามารถที่หลากหลาย สุดแล้วแต่ว่าจะหยิบเอาส่วนไหนออกมาโชว์ ยิ่งในยุคนี้แล้ว สามารถผันตัวเองให้เป็นแอดมินเพจหรือเปิดชาแนลในโลกออนไลน์ได้ง่ายๆ แต่ส่วนใหญ่มักบอกว่าไม่มีเวลา ตอนนี้แหละเป็นโอกาสทองที่จะได้เป็นเจ้าของเพจหรือมีชาแนลเป็นของตนเอง ซึ่งสามารถนำเสนอเนื้อหาอะไรก็ได้ตามที่ถนัด เช่น ออกกำลังกาย ทำอาหาร ท่องเที่ยว สุขภาพความงาม สัตว์เลี้ยง เย็บปักถักร้อย เป็นต้น การเปิดเพจหรือชาแนลนอกจากจะได้บอกต่อเรื่องราวดีๆ ออกไปสู่ผู้อื่นแล้ว หากมีคนติดตามมากพอ อาจเป็นรายได้เสริมจากการโปรโมทสินค้าในเพจหรือชาแนลได้อีกด้วย

3. หัดทำอาหารหรือขนม

คนสมัยนี้ส่วนใหญ่จะออกไปทานข้าวนอกบ้านหรือว่าซื้อกลับมากินที่บ้าน เลยไม่ค่อยทำอาหารหรือทำไม่เป็น ครั้งนี้ล่ะที่จะได้ลองหัดทำอาหารกันบ้าง โดยอาจเลือกจากเมนูง่ายๆ หรือเมนูที่ชื่นชอบ ซึ่งสูตรอาหารมีให้เลือกมากมายสามารถค้นหาได้ในอินเทอร์เน็ต หากเชี่ยวชาญแล้วค่อยพัฒนาฝีมือลองหัดทำเมนูยากๆ การทำอาหารกินเองนอกจากจะสามารถเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพแล้ว ยังมั่นใจได้ในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยไร้สารปนเปื้อน ที่สำคัญเป็นกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด ดึงความสนใจออกจากเรื่องวุ่นวายต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

4. ทำงานฝีมือ

หลายคนมีทักษะในการทำงานฝีมือพวกเย็บปักถักร้อย ลองหางานฝีมือมาหัดทำ นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับงานที่ชื่นชอบแล้ว ยังอาจหารายได้เสริมจากงานพวกนี้ได้ด้วย ยิ่งในช่วงนี้หน้ากากอนามัยขาดแคลนลองหัดทำเอาไว้ใช้เอง หรือจะเอาไปบริจาคให้กับคนที่ไม่มีก็ได้ หากเชี่ยวชาญอาจทำขายออนไลน์ สามารถหารายได้เสริมจากการอยู่บ้านได้อีกทางหนึ่ง เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

5. อ่านหนังสือที่ซื้อเก็บมานาน

เคยมั้ยไปงานสัปดาห์หนังสือแล้วซื้อกลับมาบ้านมากมาย แต่ไม่ได้เปิดอ่านสักที โอกาสนี้ได้เวลาแล้วที่จะหยิบหนังสือมาอ่านให้หนำใจ การอ่านช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดต่างๆ ทำให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยพัฒนาความจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ แถมยังช่วยทักษะในการสื่อสารให้ดีขึ้น  ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

6. ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่

ใช่แล้วเมื่ออยู่บ้านจะมีอะไรดีไปกว่าการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดเช็ดถูส่วนต่างๆ ของบ้านให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค อะไรที่รกไม่เป็นระเบียบก็จัดให้เรียบร้อย ของอะไรที่ไม่ได้ใช้เกินความจำเป็นก็เก็บใส่กล่องเพื่อเตรียมไปบริจาค โดยเฉพาะเสื้อผ้าของคุณสาวๆ ขอให้ลองจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าแล้วจะพบว่ามีชุดที่ไม่ค่อยได้ใส่อยู่มากมายรีบเก็บแล้วเอาไปบริจาคเลยที่มูลนิธิกระจกเงาหรือวัดสวนแก้วก็ได้ ถือว่าได้แบ่งปันให้กับคนที่ขาดแคลน แถมบ้านก็ไม่รกอีกต่อไป มีแต่ได้กับได้

7. ปลูกผักสวนครัว

ในช่วงที่ต้องอยู่แต่ที่บ้าน อาหารแห้งพวกข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยังพอเก็บตุนไว้ใช้ได้นานๆ แต่พวกผักสดไม่กี่วันก็เหี่ยวแล้ว การปลูกผักสวนครัวที่โตง่าย ได้ผลผลิตเร็ว ใช้พื้นที่ไม่มากเป็นทางออกที่ดีในช่วงที่เกิดวิกฤติ แถมยังได้ผักสดปลอดสารพิษเอาไว้กิน ผักที่ควรปลูก เช่น ถั่วงอก ผักบุ้ง ต้นอ่อนทานตะวัน โหระพา กะเพรา ผัดสลัดต่างๆ นับเป็นอีกกิจกรรมที่ช่วยแก้เบื่อและถือเป็นการสร้างคลังผักสดไว้ที่บ้านของเราเอง

8. ออกกำลังกาย

จะมีอะไรดีไปกว่าการเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายในช่วงที่มีโรคระบาด จะออกนอกบ้านไปหาเทรนเนอร์ก็ทำไม่ได้ แค่เปิดยูทูบก็มีชาแนลมากมายให้เลือกออกกำลังกายตามความชื่นชอบ จากการวิจัยพบว่าการออกกำลังกายให้ผลดีมากมาย ทั้งทำให้อารมณ์ดี ร่างกายแข็งแรง หลับสบาย ปอดแข็งแรง แถมช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น  เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมแก้เบื่อ ลดความเครียด แถมป้องกัน COVID-19 ได้อีกด้วย

9. ปรนนิบัติร่างกาย

เมื่อต้องอยู่บ้านนานๆ ลองหันมาดูแลร่างกายผิวพรรณของตัวเองกันดีมั้ย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านทุกวัน ไม่ค่อยมีเวลาดูแลผิวพรรณ ทำให้ผิวเสื่อมโทรม ดูแก่กว่าวัย ผิวหมองคล้ำ เป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ ลองใช้โอกาสนี้ปรนนิบัติร่างกายตัวเอง ด้วยอาบน้ำนานๆ ดูแลผิวพรรณ ขัดพอกผิว มาร์คหน้า สปาผม สปาผิว สปาเล็บให้กับตัวเอง ลองทำกันดูในช่วงว่างๆนี้ เพื่อผ่อนคลายร่างกายจิตใจ แถมยังช่วยเสริมความงาม เสริมความมั่นใจให้กับตัวเองตั้งแต่ผมจรดปลายเท้า

10. นั่งสมาธิ มีสติ ช่วยลดความเครียด

ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ การรับข้อมูลข่าวสารในปริมาณมากๆ อาจทำให้วิตกกังวลเกิดความเครียดภายในจิตใจ การทำสมาธิจะทำให้จิตของเราสงบนิ่งอยู่กับปัจจุบันไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง ก่อให้เกิดสติทำให้มีปัญญาสามารถเอาตัวรอดปลอดภัยได้ในสถานการณ์แบบนี้ แถมการทำสมาธิเป็นประจำยังช่วยให้จิตใจผ่องใส  อ่อนโยน ผ่อนคลายความเครียด ลดอารมณ์โกรธ ช่วยให้ความจำดีและสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่จะนำพาความสงบสุขมาสู่จิตใจและยังได้ลบล้างเรื่องราววิตกกังวลต่างๆ ออกไปแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร

10  กิจกรรมที่แนะนำให้ทำ นอกจากจะช่วยลดความเบื่อหน่าย ความเครียดที่ต้องอยู่ติดบ้านเป็นเวลานานๆแล้ว ยังได้ประโยชน์ทั้งในแง่การพัฒนาศักยภาพการทำงาน เพิ่มขีดความสามารถให้ตนเอง แถมยังได้ร่างกายที่แข็งแรง จิตใจแจ่มใส และอาจเป็นประตูบานใหม่ที่เปิดออกให้มีอาชีพเสริมได้ในอนาคต ลองทำตามดูแล้วจะพบว่าระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.scb.co.th

เครคิต : https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/tips-for-you/10-activities.html